วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ :
การทำงานได้จากทุกสถานที่
คู่มือสำหรับองค์กรและพนักงาน
คู่มือสำหรับองค์กรและพนักงาน
การทำงานได้จากทุกสถานที่ หรือที่เรียกว่า "การทำงานอย่างชาญฉลาด" หรือ "การทำงานจากที่บ้าน" คือความสามารถในการทำงานจากสถานที่ใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำอยู่ในสำนักงาน หรือบริษัทแบบเดิม โดยมีพื้นฐานมาจากแนวคิดที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สถานใดสถานที่หนึ่ง เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พนักงานมืออาชีพทำงานได้อย่างมีเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องให้คำแนะนำหรือออกนโยบายบางอย่าง เพื่อให้ทั้งองค์กรและพนักงานได้รับประโยชน์จากการทำงานนอกบริษัท ทั้งเรื่องความยืดหยุ่นมากขึ้นของการทำงาน สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แรงจูงใจที่เพิ่มขึ้น ผลผลิตที่สูงขึ้น และสามารถประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น
ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยจะเพิ่มมากขึ้นตามปริมาณพนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน พนักงานทำงานจากที่บ้านเป็นจุดอ่อนที่คาดไม่ถึงและไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานมีจำนวนมาก
ในบางกรณีเราไม่ได้รับรู้ถึงความเครียดของกันและกัน และอาจรู้สึกเกิดความรำคาญ ด้วยข้อความจำนวนมากอาจะทำให้เราพลาดหรือเข้าใจผิดได้ง่าย ดังนั้นการกำหนดบริบทและการเข้าถึงประเด็นของเรื่องถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้การสื่อสารผ่านแชท หรืออีเมลมีประสิทธิภาพ
การทำบางสิ่งง่ายๆ อย่างการล็อคหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อหยุดพักจากการทำงาน จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงแผนงาน ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลงบกำไรขาดทุน อีกทั้งยังช่วยป้องกันการละเมิดข้อตกลงในการรักษาความลับระหว่างพนักงานกับบริษัท รวมถึงบริษัทกับหุ้นส่วนอีกด้วย
มีแพลตฟอร์มในการบริหารจัดการงานจำนวนมาก ตลอดจนวิธีการจัดระเบียบงานเพื่อให้เป็นไปตามกำหนดเวลา แต่ไม่ว่าในกรณีใด การจัดระบบการผลิตและตารางจัดส่ง รวมถึงการส่งเสริมการจัดการเวลาที่เหมาะสมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาระดับประสิทธิภาพ
แผนกทรัพยากรบุคคลควรพยายามดูแลสุขภาพของพนักงาน รวมไปถึงแนะนำวิธีแยกชีวิตประจำวันออกจากการทำงาน เนื่องจากมีผลการวิจัยมากมายบ่งชี้ว่าการทำงานที่บ้านส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้า ความเหงา และความวิตกกังวล
มีพนักงานที่ทำงานที่บ้านโดยไม่ยอมลุกจากที่นั่งไปไหนจนกว่างานจะเสร็จ และมีพนักงานที่ถูกการรบกวนด้วยเสียงเห่าจากสุนัขของเพื่อนบ้าน หรือเสียงของเพื่อนร่วมห้อง แต่มันก็มีวิธีไขสำหรับทุกคน
พนักงานที่ต้องทำงานระยะไกลจะรู้สึกถึงความมั่นใจในตัวของเขาขณะทำงานโดยไม่มี "พี่ใหญ่ (หัวหน้า)" ที่กำลังจ้องอยู่ นั่นหมายความว่า หากไม่มีวัฒนธรรมที่มีความกลัวเป็นพื้นฐานแล้ว พนักงานจะสามารถรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้
สามารถเพิ่มความสุขและความจงรักภักดีของพนักงานที่มีต่อบริษัทได้ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการคิดนอกกรอบนั้นจะไม่เกิดขึ้นเลย หากคนเหล่านั้นปราศจากความพึงพอใจในชีวิตและการทำงานของพวกเขา
จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเพิ่มขึ้น 13% ในช่วงการทำงานจากที่บ้าน อัตราการลาหยุดและการลาป่วยลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับบริษัทที่ไม่มีการทำงานนอกสถานที่ ประสิทธิภาพในการทำงานทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20% และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานได้เป็นจำนวนมาก
ข้อดีของการเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะมาคือคนรุ่นใหม่เข้าใจถึงความเป็นไปได้ในการทำงานระยะไกลว่าเป็นสิ่งที่ "จำเป็น" นั่นเป็นเหตุผลที่มีงานวิจัยกล่าวไว้ว่า 83% ของคนยุค Millenials ยอมรับว่า "หมดไฟ" จากงานปัจจุบัน, 73% ของแผนกต่างๆ จะมีการทำงานจากที่บ้านในปีค.ศ. 2028 และระบบการทำงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะได้รับการพิจารณาใหม่ และได้รับการพัฒนาอีกครั้งเมื่อคนจากยุค Millenials ได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น
State of Remote Work 2019, by OwlLabs. “DOES WORKING FROM HOME WORK? EVIDENCE FROM A CHINESE EXPERIMENT”. By Nicholas Bloom, James Liang, John Roberts y Zhichun Jenny Ying. State of Remote Work 2017, by OwlLabs. Third Annual “Future Workforce Report” Sheds Light on How Younger Generations are Reshaping the Future of Work. By Upwork.
ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของ Kyocera's ultimate guide ในการทำงานระยะไกล
ดาวน์โหลด E-book และค้นหาว่าทำไมองค์กรของคุณจึงควรใช้นโยบายดังกล่าว
ใน E-Book เล่มนี้คุณจะได้เรียนรู้:
วิธีกำหนดนโยบายการทำงานจากที่บ้าน
วิธีการจัดการกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่บ้าน
พื้นที่ทำงานในอุดมคติเป็นอย่างไร
วิธีจัดการสุขภาพกายและสุขภาพใจ
วิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารการทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่